ต้องบันทึกไว้ในความทรงจำ กรณีน้ำทุ่งน้ำท่าท่วมท้น กลายเป็นวิกฤติน้ำท่วมทั่วถึงกว่าค่อนประเทศ ทำให้โรงงานอุตสาหกรรม จมน้ำกว่า 10,000 โรง ประเมินความเสียหายนับแสนล้านบาท เครื่องจักรเสียหายหยุดการผลิตชั่วขณะเป็นแรมเดือน ส่งผลให้ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจดิ่งเหวกันถ้วนหน้า
นายอภิวัฒน์ อสมาภรณ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมปี 2555 คาดว่าจะขยายตัวในช่วงระหว่าง 5-6% ภายใต้ปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญคือการใช้จ่ายหรือลงทุนของภาครัฐบาลในด้านต่างๆ รวมไปถึงแรงขับเคลื่อนจากการเร่งการผลิตในหลายสาขาอุตสาหกรรมหลังจากที่ได้รับการฟื้นฟูโรงงานและกลับมาผลิตอีกครั้ง อุตสาหกรรมที่น่าสนใจ อาทิ อุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน เมื่อเทียบกับปีก่อน ภาวะการผลิตเพิ่มขึ้น 20% เนื่องจากประเทศผู้ผลิตอาหารสำคัญหลายประเทศ ประสบปัญหาด้านวัตถุดิบจากภัยธรรมชาติ ไม่สามารถผลิตได้ ส่งผลต่อระดับราคาสินค้าเกษตรและอาหารในตลาดโลกมีทิศทางปรับตัวสูงขึ้นในเกือบทุกสินค้า ด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ ปีนี้ผลิตได้ประมาณ 1.5 ล้านคัน
เนื่องจากในช่วงต้นปีได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยพิบัติที่เกิดขึ้นใประเทศญี่ปุ่น และปลายปี 2554 ได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศไทย มีโรงงานประกอบรถยนต์ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง คือโรงงานผลิตรถยนต์บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ที่ตั้งอยู่ในสวนนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดพระนคร ศรีอยุธยา หยุดการผลิตตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคม 2554 และคาด ว่าจะกลับมาผลิตได้อีกครั้งในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2555
ขณะที่โรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์หลายรายก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ส่งผลให้ไม่สามารถส่งชิ้นส่วนรถยนต์ให้กับผู้ผลิตรถยนต์ ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ขาดชิ้นส่วนที่ใช้ในการผลิต สำหรับแนวโน้มปี 2555 คาดว่าจะมีการผลิตรถยนต์ประมาณ 2 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 33% เนื่องจากการลงทุนผลิตรถยนต์รุ่นใหม่และรถยนต์ยี่ห้อใหม่ที่เริ่มผลิตในประเทศ เพื่อจำหน่ายในประเทศและส่งออกไปยังประเทศสำคัญในเอเชีย ตลอดจนการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมรถยนต์ภายหลังจากปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศ และการกระตุ้นยอดจำหน่ายจากนโยบายรถยนต์คันแรกของรัฐบาล ศักราชแห่งความสุข 2555 จึงเป็นปีแห่งความหวังที่เศรษฐกิจจะขับเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยดีหมดเวลาเช็ดน้ำตากับความเสียหายแล้ว
จากนี้ไปต้องลุกขึ้นมาเข้าเกียร์ 5 ไปข้างหน้าอย่างผู้ชนะ จึงจะสามารถยืนหยัดอยู่ได้อย่างมั่นคง
http://www.siamturakij.com/home/news/display_news.php?news_id=413357565
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น